กิจการ Messenger เสียภาษีอย่างไร

กิจการ Messenger เสียภาษีอย่างไร

ด้วยสภาพปัญหาการจราจรในปัจจุบันในเมืองใหญ่ และการขายสินค้าออนไลน์ที่เติมโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจรับส่งเอกสาร พัสดุ สิ่งของ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้นมาดูกันว่าธุรกิจดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการให้บริการซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือเข้าลักษณะเป็นการให้บริการการขนส่งในราชอาณาจักรที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และอยู่ในบังคับต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ แยกได้ดังนี้

  1. กรณีผู้ประกอบกิจการทำสัญญาจ้างเหมารับ-ส่งเอกสาร พัสดุ หรือสิ่งของให้แก่ผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นบริษัทโดยผู้รับจ้างไม่ได้ส่งพนักงานไปปฎิบัติงานประจำ ณ สำนักงานของผู้ว่าจ้าง ถือเป็นการให้บริการขนส่งตามมาตรา 608 เข้าลักษณะเป็นการให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรผู้ประกอบการดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) และไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81/3 เนื่องจากเงินได้จากการประกอบกิจการขนส่งดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจึงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 1.0
  2. กรณีผู้ประกอบการกิจการทำสัญญาจ้างเหมารับ-ส่งเอกสาร พัสดุ หรือสั่งของให้แก่ผู้ว่าจ้างซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตกลงส่งพนักงานพร้อมรถจักรยานยนต์รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงไปปฎิบัติงานประจำ ณ สำนักงานผู้ว่าจ้าง โดยผู้ว่าจ้างเป็นผู้มอบหมายงานให้ปฎิบัติและสั่งงงานตามระยะเวลาที่ระบุในสัญญา ทั้งนี้ ผู้ว่าจ้างต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากการดำเนินงานของพนักงาน และต้องรับผิดชอบต่อความสูญหายใดๆ ที่เกิดแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 (1) และผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0

****ดังนั้น การประกอบกิจการรับส่งเอกสาร พัสดุ หรือสิ่งของอาจมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับสัญญาที่กระทำระหว่างกัน