มารู้จักภาษีป้าย

ภาษีป้าย คือ

 ภาษีป้ายเป็นภาษีที่จัดเก็บจากป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึก หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ๆ ดังนั้น ป้ายชื่อของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ โลโก้ ตัวอักษร ภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นป้ายทั่วไป ป้ายผ้าใบ ป้ายบิลบอร์ด หรือป้ายไฟโฆษณาต้องเสียภาษีป้ายทั้งสิ้น

 ผู้มีหน้าที่เสียภาษี

คือ เจ้าของป้ายหรือผู้ครอบครองป้าย ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย

อัตราภาษีป้ายใหม่

ภาษีป้ายเป็นภาษีซึ่งองค์กรปกครองท้องถินมีหน้าที่ในการจัดเก็บ เพื่อหารายได้ ่มาพัฒนาท้องถิ่นของตน เพิ่งมีการปรับ
อัตราภาษีป้ายใหม่เพื่อให้การจัดเก็บภาษีป้าย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิงขึ้นโดยใช้บังคับสำหรับป้ายที่ต้องเสียภาษี
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงวันที่อ31 ธันวาคม 2566 ดังนี้

  1. ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน
    ก. ป้ายที่มีข้อความเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนเป็นข้อความอื่นได้ อัตรา 10 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
    ข. ป้ายนอกจาก (ก) ให้คิดอัตรา 5 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
  2. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ และหรือปนกับภาพ และหรือเครื่องหมายอื่น
    ก. ป้ายที่มีข้อความ เครื่องหมาย ภาพที่เคลื่อนที่หรือเปลี่ยนเป็นข้อความเครื่องหมายหรือภาพอื่นได้อัตรา 52 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
    ข. ป้ายนอกจาก (ก) อัตรา 26 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
  3. ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใด ๆ และป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ
    ก. ป้ายที่มีข้อความ เครื่องหมาย หรือภาพเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนเป็นข้อความ เครื่องหมาย หรือภาพอื่นได้อัตรา 52 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
    ข. ป้ายนอกจาก (ก) อัตรา 50 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตรทั้งนี้ หากคำนวณแล้วมีภาษีป้ายที่ต้องเสียต่ำกว่า 200 บาท ให้ชำระภาษีเป็นเงิน 200 บาท

เจ้าของป้ายหรือผู้ครอบครองป้ายจะต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี (แบบ ภ.ป.1) ภายในวันที่31 มีนาคมของทุกปี หากติดตั้งป้ายใหม่หรือเปลี่ยนแปลงข้อความในป้าย ต้องยื่นแบบ ภ.ป.1 ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ติดตั้งใหม่หรือที่เปลี่ยนแปลงข้อความใหม่
หากเจ้าของป้ายได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษี(แบบ ภ.ป.3) ให้ชำระภาษีภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้งการประเมิน ถ้าชำระภาษีภายในกำหนดและมีภาษีที่ต้องชำระเกิน 3,000 บาท สามารถผ่อนชำ ระได้ 3 งวด งวดละ เท่า ๆ กัน

บทลงโทษ

  1. ไม่ยื่นแบบฯ ภายในกำหนดเวลาต้องเสียเงินเพิ่ม ร้อยละ 2 ต่อเดือนของค่าภาษี
  2. ไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลาต้องเสียค่าปรับ ร้อยละ 10 ของค่าภาษี
  3. หากยื่นแบบฯ ไม่ตรงความจริงทำ ให้ชำระภาษีขาดไป ต้องเสียค่าปรับร้้อยละ 10 ของค่าภาษี

ป้ายบางประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษี

  1. ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพนั้นเพื่อโฆษณามหรสพ
  2. ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้าหรือที่สิ่งหุ้มห่อหรือบรรจุสินค้า
  3. ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
  4. ป้ายที่แสดงไว้ที่คนหรือสัตว์
  5. ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นหรือภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน เพื่อหารายได้
    และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกิน 3 ตารางเมตรที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์
  6. ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
  7. ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึนตามกฎหมาย ว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาลหรือตามกฎหมายว่าด้วยการนัน ๆ และหน่วยงานที่นำรายได้ส่งรัฐ
  8. ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทยธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  9. ป้ายของโรงเรียนเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียนเอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น
  10. ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
  11. ป้ายของวัดหรือผู้ดำ เนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนา หรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ
  12.  ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ
  13. ป้ายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

 

บริษัท พรกวินทิพย์ จำกัด