การปรับเปลี่ยนอายุการเกษียณ

เนื่องจากปัจจุบันสังคมผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือกลุ่มคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าทุกช่วงอายุในพื้นที่เดียวกัน ผลที่ตามมาสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาจะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือรายได้ประชาชาติลดน้อยลง เนื่องจากสัดส่วนของผู้สูงอายุที่มากขึ้น จากปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการกำหนดอายุที่ควรเกษียณอายุราชการ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงบุคคลภาครัฐมีอาชีพหลังเกษียณในช่วงวัยต่างๆได้อย่างเหมาะสมจึงได้มีการปรับเปลี่ยนการขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี  ซึ่งไม่ครอบคลุมหน่วยงานที่ต้องใช้ศักยภาพทางร่างกาย และกำหนดเป้าหมายให้ในปี 2567 ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเกษียณอายุราชการที่อายุ 63 ปี

ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาให้รับราชการต่อไป ณ วันสิ้นปีงบประมาณที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งประเภททั่วไป หรือระดับทักษะพิเศษและต้องดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นอกจากนี้ส่วนราชการยังคงต้องคำนึงถึง

  1. ต้องมีสภาวะการขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพทั้งในส่วนราชการนั้นเองและในภาพรวม
  2. ต้องมีความสามารถในทางวิชาการหรือความสามารถเฉพาะตัวและมีความยากในการหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมมาปฎิบัติหน้าที่แทน
  3. ต้องมีความจำเป็นของทางราชการและต้องคำนึงถึงความสมัครใจของข้าราชการด้วย
  4. ต้องผ่านการตรวจสุขภาพทั้งทางร่างการและจิตใจ

 

www.pornkawinthip.com