รายจ่ายสวัสดิการ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงสวัสดิการพนักงาน ซึ่งหลายๆคนและหลายๆบริษัท อาจจะมีข้อสงสัยว่าสวัสดิการพนักงาน ที่ทางบริษัท หรือนายจ้างมอบให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างทุก ๆ คน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของลูกจ้างและเพื่อให้ลูกจ้างมีสภาพความเป็นอยู่ในการทำงานที่ดีขึ้น ว่าสิ่งที่ได้รับมาเหล่านี้ถือเป็นรายได้พึงประเมินที่เราจะต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า รายจ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน หมายถึงอะไร

รายจ่ายสวัสดิการ หมายถึง รายจ่ายเพื่อประโยชน์ของพนักงานในอันที่จะให้เกิดผลดีแก่การดำเนินงานโดยรวมของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแบ่งเป็น

  1. รายจ่ายค่าสวัสดิการทั่วไป เช่น น้ำดื่ม กาแฟ ยารักษาโรคเบื้องต้น
  2. รายจ่ายค่าสวัสดิการที่มีระเบียบข้อบังคับกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเนื่องจาก สวัสดิการที่นายจ้างให้กับพนักงานนั้น ก็เพื่อให้ลูกจ้างชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ในการทำงานดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น แต่ต้องเป็นไปตาม กม แรงงานจึงจะถือว่าเป็นหลักฐานทางภาษีอากร เพื่อใช้หักค่าใช้จ่ายของกิจการได้ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการพนักงาน ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร และหากมีภาษีซื้อเกิดขึ้นจากค่าสวัสดิการพนักงานดังกล่าว ก็สามารถเครดิตภาษีซื้อหรือขอคืนได้

ตัวอย่าง

บริษัท ก. จำกัด มีระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการของพนักงาน กล่าวคือ บริษัทฯ มีนโยบายคิดค่าสวัสดิการให้กับพนักงานทุกคนและทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทดลองงาน พนักงานรายวันหรือพนักงานรายเดือนที่ยังคงสภาพเป็นพนักงานของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องสวัสดิการต่างๆ เช่น งานกีฬาสี การจัดงานเลี้ยงเทศกาลปีใหม่ ฯลฯ และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานโดยตรง ทั้งนี้ไม่รวมถึงค่าชุดเครื่องแบบของพนักงาน การคิดเงินสวัสดิการพนักงาน จะคิดให้ในอัตราคนละ 3,000 บาท พนักงานทั้งสิ้น 257 คน รวมเงินสวัสดิการจำนวน 771,000 บาท (เจ็ดแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) จะถูกจ่ายจากบัญชีของบริษัทฯ เป็นยอดเดียว และนำเงินทั้งหมดเก็บเข้าไว้ในบัญชี “คณะกรรมการสวัสดิการ” โดยบัญชีดังกล่าวจะแยกออกจากบัญชีของบริษัทฯ มีคณะกรรมการซึ่งได้รับการเลือกตั้งมาจากลูกจ้างในบริษัทฯ ตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เป็นผู้ดูแลบัญชีสวัสดิการพนักงานดังกล่าวและเป็นผู้ควบคุมเรื่องการเบิกจ่าย มีการทำบัญชีเก็บไว้เป็นหลักฐาน จึงขอหารือว่า

  1. กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินสวัสดิการให้พนักงาน จะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ได้หรือไม่
  2. ค่าสวัสดิการที่ให้กับพนักงานดังกล่าวนั้น จะถือเป็นรายได้ของพนักงานแต่ละคนซึ่งต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่

 

คำตอบ

  1. กรณีบริษัทฯ ได้จ่ายเงินเข้าบัญชีคณะกรรมการสวัสดิการ และคณะกรรมการฯ ได้นำเงินดังกล่าวไปจัดงานและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงาน กรณีจึงเข้าลักษณะเป็นประโยชน์เพิ่มอันถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และเข้าลักษณะเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งพนักงานผู้ได้รับสวัสดิการดังกล่าวต้องนำประโยชน์ที่ได้รับมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่สวัสดิการจัดเลี้ยงในเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นเงินได้ที่ได้รับจาก

การให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(10) แห่งประมวลรัษฎากร

  1. กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานตาม 1. ถือเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ และไม่ใช่รายจ่ายที่มีลักษณะเป็นการส่วนตัวหรือการให้โดยเสน่หา บริษัทฯ สามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) และ (13) แห่งประมวลรัษฎากร

กล่าวโดยสรุปคือองค์ประกอบของรายจ่ายสวัสดิการมีดังนี้

  • สวัสดิการต้องมีระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ ออกมาให้แก่ลูกจ้าง
  • สวัสดิการนั้นต้องไม่เลือกปฏิบัติ เป็นสวัสดิการที่ให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างทุกคน ซึ่งไม่เท่ากันก็ได้ แต่ต้องได้ทุกคน
  • ต้องเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ

ต้องครบองค์ประกอบทั้ง 3 ข้อ สวัสดิการดังกล่าวจึงถือเป็นรายจ่ายของกิจการนำมาคำนวณกำไรสุทธิของกิจการได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฏากร